‘น้ำตาลโตนดกำปงสปือ’ ซึ่งเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนในสหภาพยุโรป คาดว่าจะถูกส่งออกสู่ตลาดจีนในปีหน้า และจะเป็นการขยายตลาดสำหรับสินค้าชนิดนี้อีกด้วย
นาย Vy Veasna ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ของสมาคมส่งเสริมน้ำตาลโตนดกำปงสปือ (KSPSPA) เปิดเผยว่า น้ำตาลโตนดราว 20 ตัน ซึ่งคิดเป็น 30% ของการส่งออกทั้งหมด คาดว่าจะถูกส่งออกไปยังจีนในปีหน้า โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน เคยส่งตัวอย่างน้ำตาลดังกล่าวนี้ไปยังจีนมาแล้ว และมีบริษัทจีนแห่งหนึ่งได้สั่งซื้ออย่างไม่เป็นทางการประมาณ 20 ตัน ให้กับสมาคมฯ เพื่อส่งออกในปีหน้า ซึ่งราคาน้ำตาลโตนดที่ขายโดยบรรดาสมาชิกของสมาคมฯ อยู่ที่ระหว่าง 1.25-1.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม
เบื้องต้น สมาคมฯ ได้ส่งออกน้ำตาลปี๊บจำนวน 76 ตัน และน้ำตาลทรายจำนวน 2.3 ตันในปีนี้ ผ่านเหล่าบริษัทพันธมิตรผู้ส่งออก โดยมีตลาดส่งออกหลักคือ สหภาพยุโรป ตามด้วยสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย นอกจากนี้ กัมพูชายังส่งออกข้าวสารที่ขัดสีแล้ว มันสำปะหลังแห้ง มะม่วง และกล้วย ไปยังจีนอีกด้วย
ขณะที่ นาย Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง ระบุระหว่างพิธีเปิดงานส่งออกลำไยไพลินไปยังจีนเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า ความร่วมมือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างกัมพูชาและจีนมีส่วนช่วยพัฒนาภาคการเกษตรของกัมพูชาอย่างมีนัยสำคัญ และเร็วๆ นี้ กัมพูชาเตรียมเจรจาเพื่อพัฒนาระเบียบเกี่ยวกับสุขอนามัยพืชสำหรับผลไม้ของกัมพูชาอีกหลายชนิดที่จะส่งออกไปยังจีน นอกจากนี้ ยังได้ขอให้จีนเร่งเจรจาเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านสุขอนามัยของสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพเพื่อการส่งออกอื่นๆ อีกด้วย ทั้งพริกไทย รังนก และทุเรียน
ทั้งนี้ น้ำตาลโตนดจังหวัดกำปงสปือได้รับการจดทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์คุ้มครองโดยสหภาพยุโรปในปี 2562 ภายใต้ชื่อ 'Skor Thnot Kampong Speu' โดยกลายเป็นสินค้า GI รายการที่ 2 ของกัมพูชา ต่อจาก ‘พริกไทยกัมปอต’ ที่ได้รับการจดทะเบียนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยน้ำหวานจากต้นตาลที่นำมาทำน้ำตาลโตนดถูกเก็บและแปรรูปใน 3 อำเภอ ได้แก่ อุดงค์และสำโรงทอง ในจังหวัดกำปงสปือ และอังค์สนูล ในจังหวัดกันดาล
ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์