เครือข่ายรถไฟ เชื่อมสายใจ โยงใยเศรษฐกิจ "อาเซียนหนึ่งเดียว"


บริษัทสื่ออเมริกัน U.S. News & World Report เผยแพร่การจัดอันดับประเทศที่เหมาะแก่การใช้ชีวิตหลังเกษียณประจำปี 2565 จากทั้งสิ้น 85 ประเทศ โดยนิวซีแลนด์ครองอันดับ 1 ตามด้วยสวิตเซอร์แลนด์ และสเปนตามลำดับ
.
ไทยครองอันดับ 1 ในอาเซียน หรืออันดับที่ 19 ของโลก ในขณะเดียวกัน เวียดนามรั้งอันดับที่ 39 
.
ทั้งนี้ อันดับของเวียดนามอยู่ตามหลังไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่อยู่ในอันดับที่สูงกว่าอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ กัมพูชา และจีน โดยตกลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ในอันดับที่ 35 จากการจัดอันดับทั้งหมด 78 ประเทศ
.
การจัดอันดับดังกล่าวนี้มาจากการสำรวจผู้คนทั่วโลกกว่า 17,000 คน ที่ได้บอกกล่าวความรู้สึกของพวกเขาต่อปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความสามารถในการจ่าย, สภาพแวดล้อมทางภาษีที่เอื้ออำนวย, ความเป็นมิตร, สภาพภูมิอากาศที่น่ารื่นรมย์, การเคารพสิทธิในทรัพย์สิน และระบบสาธารณสุขที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี
.
ขณะที่ การมีค่าครองชีพที่ถูก ตลอดจนระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ และอัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงที่ต่ำ ทำให้เวียดนามกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับชาวต่างชาติวัยเกษียณ โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นิตยสาร Travel+Leisure ของอเมริกาได้จัดอันดับให้เวียดนามเป็น 1 ใน 8 ประเทศในฝันของชาวอเมริกันที่จะย้ายไปอยู่หลังเกษียณ เนื่องจากค่าครองชีพถูกและประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลาย
.
อย่างไรก็ตาม ความยุ่งยากในการขอวีซ่ายังคงเป็นปัญหาใหญ่ เพราะในขณะที่เพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนกำลังแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ร่ำรวย ด้วยการเปิดตัว 'Golden Visas' ซึ่งอนุญาตให้พำนักในประเทศได้สูงสุด 20 ปี เวียดนามกลับใช้นโยบายวีซ่าแบบเข้า-ออกครั้งเดียวภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่เปิดรับการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอีกครั้งเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยทั้งบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติและบริษัทนำเที่ยวท้องถิ่นต่างพูดตรงกันว่า นโยบายวีซ่าปัจจุบันเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว
.
ทั้งนี้ เวียดนามได้เสนอยกเว้นวีซ่าให้กับ 24 ประเทศและเขตอาณานิคม โดยอนุญาตให้พำนักในประเทศได้สูงสุด 90 วัน
 
 
 
 

ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์