ฟิลิปปินส์เตรียมเปิดตัวการจดเบียนธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ในปี 2563


 
นาย Ramon M. Lopez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (Department of Trade and Industry: DTI) ของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (Department of Information and Communications Technology: DICT) เตรียมแผนเปิดใช้ระบบ Online Portal ให้ภาคธุรกิจสามารถยื่นขอจดทะเบียนธุรกิจผ่านระบบออนไลน์รวมถึงเอกสารที่จำเป็นของภาครัฐ เพื่ออำ นวยความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดย DICT ยืนยันว่าจะสามารถเปิดใช้งานบางส่วนในเดือนกุมภาพันธ์2563 ซึ่งจะครอบคลุมการจดทะเบียนของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (Securities and Exchange Commission: SEC) กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม สำนักงานประกันสังคม (Social Security System: SSS) ไปจนถึงการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากนายกเทศมนตรีประจำเมือง 
 
นาย Ramon M. Lopez กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ DTI อยู่ในระหว่างการหารือกับกรมสรรพากร (Bureau of Internal Revenue: BIR) เพื่อรวบรวมข้อกำหนดต่างๆ ในการขอจดทะเบียนธุรกิจกับ BIR หากข้อมูลดังกล่าวครบถ้วนแล้ว จะทำให้การจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ครบวงจรในที่เดียว โดย DTI ตั้งเป้าหมายในการใช้ระบบ Online Portal เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในกระบวนการจดทะเบียนภายใน 1 ชั่วโมง
 
ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคม 2562 DTI ได้ให้ข่าวว่า จะดำเนินโครงการนำร่องการจดทะเบียนธุรกิจแบบเบ็จเสร็จ ณ จุดเดียว (National Business One-Stop Shop: NBOSS) โดยได้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ SEC, SSS, BIR, Philippine Health Insurance Corp. (PhilHealth), Home Development Mutual Fund (Pag-IBIG) และหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นมาไว้ในที่เดียว โดย NBOSS จะช่วยลดขั้นตอนการจดทะเบียนธุรกิจลงเหลือ 5 ขั้นตอน มีความคล่องตัวขึ้นและสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 – 6 วันเท่านั้น
 
ผลกระทบต่อประเทศไทย
การพัฒนาระบบการจดเบียนธุรกิจออนไลน์ของฟิลิปปินส์จะช่วยส่งผลดีกับประเทศไทย เพราะระบบดังกล่าวจะสนับสนุนระบบ National Single Window ของอาเซียน โดยเฉพาะการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประเทศในแบบ G2G, G2B และ B2B ซึ่งจะทำให้กระบวนการนำเข้า – ส่งออก มีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากขึ้น
 
โอกาสและแนวทางการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย
จากนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ จะเป็นโอกาสที่ดีต่อผู้ประกอบการไทยที่ด าเนินกิจการอยู่ในฟิลิปปินส์และผู้ประกอบการรายใหม่ที่ก าลังสนใจเข้ามาลงทุนหรือร่วมทุนในตลาดฟิลิปปินส์ เนื่องจากกระบวนการจดทะเบียนธุรกิจในฟิลิปปินส์ปัจจุบันใช้เวลาค่อนข้างนานและต้องประสานกับหลายหน่วยงาน ทำให้เกิดความยุ่งยากและสับสนกับผู้ประกอบการไทย ประกอบกับระบบโลจิสติกส์ของประเทศที่ไม่เอื้อต่อการเดินทางมากนัก ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายๆ รายมองข้ามตลาดฟิลิปปินส์ไป แต่การพัฒนาระบบการจดเบียนธุรกิจออนไลน์แสดงถึงความพร้อมของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในการอำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจมากขึ้น ผู้ประกอบการทั้งในประเทศและนักลงทุนต่างชาติจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้ามาลงทุนหรือติดต่อค้าขายกับผู้ประกอบการฟิลิปปินส์ควรเตรียมความพร้อมรองรับกับระบบใหม่ดังกล่าว 
 
 
 
 
 
 

ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน