จีนพร้อมช่วย 'อาเซียน-ประชาคมโลก' เข้าถึงวัคซีนโควิด


 
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ยืนยัน รัฐบาลปักกิ่งยินดีช่วยนานาประเทศเข้าถึงวัคซีนโควิด รวมถึงอาเซียน พร้อมเสริมว่าวัคซีนเป็น "อาวุธขั้นสูงสุด" ที่จะทำให้ทั่วโลกมีชัยเหนือโรคระบาด
 
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในวันศุกร์ (16 ต.ค.) ว่า จีนยินดีจะทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และให้ความสำคัญกับความต้องการของประเทศกำลังพัฒนาก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศอาเซียน
 
นายหวัง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว หลังจากหารือกับพลเอกลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน ทูตพิเศษของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และนายทีโอโดโร ล็อกซิน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน และหลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันได้แก่กัมพูชา มาเลเซีย ลาว ไทย และสิงคโปร์เมื่อวันศุกร์ (16 ต.ค.)
 
เมื่อถูกถามว่าจีนจะทำให้วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะของโลกตามสัญญาที่ให้ไว้อย่างไร นายหวังตอบว่าไวรัสไม่รู้จักพรมแดน การต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทั่วโลกจะประสบชัยชนะครั้งสุดท้ายเมื่อทุกประเทศสามารถกำจัดการแพร่ระบาดได้แล้ว พร้อมเสริมว่าวัคซีนเป็น "อาวุธขั้นสูงสุด" ที่จะทำให้ทั่วโลกมีชัยเหนือโรคระบาด
 
นายหวัง ยังกล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของมวลมนุษยชาติว่า ประชาคมระหว่างประเทศควรร่วมมือกัน "เราไม่ควรต่อสู้เพียงลำพัง ไม่ควรผูกขาดทรัพยากร"
 
นายหวังกล่าวว่า ด้วยฐานะหนึ่งในผู้พัฒนาวัคซีนแนวหน้า จีนได้แบ่งปันลำดับพันธุกรรมของไวรัสแก่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) อย่างทันท่วงทีในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ โดยสร้างเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาวัคซีนทั่วโลก
 
ขณะเดียวกัน จีนจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างจริงจังในการทำให้วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะระดับโลกทันทีที่การพัฒนาประสบผลสำเร็จพร้อมใช้งาน ทั้งยังจะช่วยประเทศกำลังพัฒนาให้สามารถเข้าถึงและมีกำลังซื้อวัคซีนได้
 
ด้านกลุ่มประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวชื่นชมการวิจัยและพัฒนาวัคซีนของจีน พร้อมแสดงความหวังจะร่วมมือกับจีนในทุกด้าน ทั้งการวิจัยและพัฒนา การจัดซื้อ การผลิต และการใช้งานวัคซีน
 
ทั้งนี้ จีน พร้อมจะช่วยเหลือประเทศต่างๆ ให้สามารถเข้าถึงและมีกำลังซื้อวัคซีน เอาชนะโรคระบาดได้โดยเร็วที่สุด ตลอดจนสนับสนุนการปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคและทั่วโลก
 
 
 
 
 

ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ