ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก 5 ประเทศ ที่ร่วมก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (ASEAN) เมื่อ พ.ศ. 2510 โดยประเทศไทยมีบทบาทอย่างแข็งขัน ในการผลักดันโครงการและกิจกรรมความร่วมมือต่าง ๆ ของประชาคมอาเซียนมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง นอกจากนั้น ประเทศไทยยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ประเทศคู่เจรจา และประเทศอื่น ๆ ในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี และการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนในประเทศสมาชิก ด้านการศึกษา สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่อาเซียนให้ความสำคัญ
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมีภารกิจหลักในการสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้พัฒนาการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น การบริหารงานบุคคล การเงิน และการคลัง เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการจัดการบริการสาธารณะในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน นอกจากนั้น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้มีแผนงานและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เช่น การสร้างความรู้ความเข้าใจในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับองค์กรระหว่างประเทศ และการพัฒนาบุคคลกรให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร เป็นต้น เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้ใกล้ชิดดูแลประชาชน ได้มีการเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้รับมือกับความท้าทายในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะภารกิจที่เกี่ยวข้องกับสามเสาหลักของประชาคมอาเซียน เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการจัดการปัญหามลพิษและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
สำนักข่าว Khmer Times รายงานเมื่อ 5 ธ.ค.64 ว่า กัมพูชาจะเริ่มงานก่อสร้างตามโครงการขยายท่าเรือ จ.พระสีหนุ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและดึงดูดการลงทุน จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 2565 เลื่อนจากแผนก่อสร้างเดิมเมื่อกลางปี 2564 โดยมีแผนก่อสร้าง 2 ระยะ ในระยะแรก ในปี 2565-2567 เริ่มขยายท่าเรือขนาดความยาว 350 เมตร และลึก 14.5 เมตร เพื่อรองรับเรือบรรทุกสินค้าร้อยละ 93 ที่จอดเทียบท่าของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจากเดิมร้อยละ 18-19 และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของกัมพูชา ขณะนี้อยู่ระหว่างการประมูลการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกในระยะที่ 1 ส่วนในระยะที่ 2-3 จะขยายท่าเรือเพื่อรองรับการขนส่งสินค้า ไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในปี 2570 และปี 2572 ตามลำดับ เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชาพึ่งพาท่าเรือขนาดใหญ่ ในสิงคโปร์ ฮ่องกง ไทย และเวียดนาม เพื่อขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
http://www.aseanthai.net/ewt_news.php?nid=12527&filename=index