'จีน' หนุนธุรกิจพลังน้ำ 'ลาว' จ่อกระตุ้นส่งออกไฟฟ้า


ความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างจีน-สปป. ลาว ได้นำพาโอกาสในการพัฒนาใหม่ๆ มาสู่หมู่บ้านชนบทใน สปป. ลาว ซึ่งช่วยให้ประเทศที่เต็มไปด้วยธุรกิจพลังน้ำนี้สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำและกระตุ้นการส่งออกไฟฟ้าได้มากขึ้น
.
การลงทุนของจีน ซึ่งกินสัดส่วนประมาณ 70% ของการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำของ สปป. ลาว เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าทั้ง 2 ประเทศมีการส่งเสริมความร่วมมือภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) และกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ประกอบกับการเยือนประเทศจีนของนายทองลุน สีสุลิด ประธานาธิบดี สปป. ลาว และเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว (LPRP) จะช่วยผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคีและช่วยยกระดับพันธมิตร
.
ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท Power Construction Corp of China (PowerChina) ได้ลงนามในสัญญากับบริษัท สปป. ลาว เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 600 เมกะวัตต์ทางตอนใต้ของประเทศ  ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเหมือนเป็นการบอกใบ้บทบาทของบริษัทจีนในการช่วยเหลือ สปป. ลาว เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 26,000 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2564 PowerChina ได้สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำ Nam Ou ที่มีกำลังการผลิตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 5 พันล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง
.
นอกจากนี้ จากข้อมูลของทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศพบว่า ในปีที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังน้ำของ สปป.ลาว สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงถึง 8,349 เมกะวัตต์ คิดเป็น 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตที่มีศักยภาพ และการส่งออกไฟฟ้ากลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยไฟฟ้าสามารถสร้างรายได้ได้กว่า 10% ของ GDP และ 30% ของปริมาณการส่งออกมาเป็นเวลาหลายปีอีกด้วย และมีตลาดส่งออกหลักคือประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์ เป็นต้น
 
 
 
 

ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์