บริษัทโลจิสติกส์ระดับโลก เล็งเข้าตลาดการค้าออนไลน์เวียดนาม


Maersk บริษัทให้บริการสายการเดินเรือขนส่งสินค้าทางตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและ FedEx บริษัทขนส่งของสหรัฐอเมริกากำลังแสวงหาทางเข้าตลาดโลจิสติกส์ธุรกิจค้าออนไลน์ (e-commerce) ของเวียดนาม 
.
นาย Ditlev Blicher กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของบริษัท Maersk เปิดเผยว่า Maersk จะมีสถานะที่ดีขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซโลก รวมถึงเวียดนาม โดย Maersk วางแผนที่จะนำเสนอบริการขนส่งให้ทั้งธุรกิจแบบ B2B (การค้าระหว่างธุรกิจด้วยกัน) และแบบ B2C (การค้าจากธุรกิจส่งตรงถึงผู้บริโภค)
.
ขณะที่ นาย Hoan Dang หัวหน้าด้านการจัดการสั่งซื้อสินค้าผสานทุกช่องทาง ของบริษัท Maersk ในเวียดนามและกัมพูชา กล่าวว่า Maersk อาจจะร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อจัดการกับคำสั่งซื้อสินค้าในตลาดเวียดนาม
.
ส่วน FedEx กำลังดำเนินการรวมบริการต่างๆ กับบรรดาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อทำให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์สามารถเข้าใช้บริการโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์มนั้นๆ โดยนาย Hardy Diec กรรมการผู้จัดการของ FedEx Express Indochina ระบุว่า อีคอมเมิร์ซจะยังคงเติบโตและรุ่งเรืองต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ FedEx เพิ่งเปิดศูนย์ปฏิบัติการใหม่มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในกรุงฮานอย และวางแผนให้เวียดนามเป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่ FedEx จะสร้างการเติบโตทางการค้าในอีก 5 ปีข้างหน้า
.
ทั้งนี้ รายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company คาดการณ์ว่า เวียดนามจะบรรลุการเติบโตสูงสุดด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระหว่างปี 2565 - 2568 ขณะที่ Allied Market Research ระบุว่า ตลาดการส่งแบบด่วนของเวียดนามคาดว่าจะมีมูลค่า 4,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 หลังจากเติบโต 24.1% ต่อปี ซึ่งการเติบโตของอีคอมเมิร์ซเป็นหนึ่งในตัวผลักดันหลัก
.
ปัจจุบันบริษัทโลจิสติกส์ต่างๆ กำลังขยายการให้บริการและลดราคาลง โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Lazada Logistics ประกาศนำเสนอบริการขนส่งหลายช่องทางสำหรับเหล่าร้านค้าออนไลน์ ส่วน J&T Express ประกาศลดค่าขนส่งราว 10-20%
 
 
 
 

ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์