ครม.อนุมัติงบ 151 ล้าน หนุนแผนพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม เจดีเอไทย-มาเลเซีย ปี 2562 เพิ่มขึ้น 7%


 
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์  ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2561 ได้อนุมัติงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2562 ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย เพื่อดำเนินการในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) วงเงิน 4.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดงานครบรอบ 40 ปี ของการจัดตั้งองค์กรร่วมฯ การปรับขึ้นเงินเดือนของบุคลากรตามการปรับโครงสร้างองค์กร ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานครบวาระ และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์)
 
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์เกี่ยวกับผล กระทบของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์และเงินริงกิต ซึ่งคณะกรรมการองค์กรร่วมฯ ได้มีมติให้ปรับอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2562 ให้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์  เท่ากับ 3.8 ริงกิต  โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับปี 2561 ที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 4.0 ริงกิต
 
"ครม.เห็นชอบอนุมัติงบประมาณ ครั้งนี้ โดยขอใช้เงินจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของ ปี 2561 จำนวน 4.45 ล้านดอลลาร์ และงบประมาณเหลือจ่ายของปี 2560 จำนวน 1.31 แสนดอลลาร์" นาย ณัฐพร กล่าว
 
อย่างไรก็ตาม องค์กรร่วมดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทยมาเลเซีย พ.ศ. 2533  เพื่อรวมสิทธิและรับผิดชอบแทนรัฐบาลทั้งสองในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีชีวิตในพื้นดินใต้ทะเลและใต้ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วม ล่าสุดกระทรวงพลังงานรายงานให้ที่ ประชุม ครม.ทราบว่า ณ สิ้นปี 2560  แหล่ง JDA ไทย-มาเลเซีย มีปริมาณสำรองปิโตรเลียมแยกเป็นก๊าซธรรมชาติ 3.39 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ก๊าซธรรมชาติเหลว 72.05 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดิบ 7.50 แสนล้านบาร์เรล
 
ขณะที่รายได้ที่องค์กรร่วมฯ ได้นำส่งรัฐบาลทั้งสองประเทศ ในปี 2560 อยู่ที่ 9,177.81 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.02 แสนล้านบาท
 
 
 
 

ที่มา:โพสต์ทูเดย์