เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ เพื่ออำลา ยืนยันไทยและสหรัฐฯ พร้อมสานต่อความร่วมระหว่างกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้าและการลงทุน


 
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 เวลา 15.00 น. นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯ เป็นอย่างดีทำให้มีพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ นับเป็นมิตรที่มีความใกล้ชิด และเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย รวมทั้งยินดีที่ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายมีตัวเลขความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้นำคณะนักธุรกิจสมาชิกสภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน (U.S. – ASEAN Business Council: USABC) เข้าพบหารือเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้จัดสัมมนา “Select USA: Helping Thai Corporate Go Global” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (14 มกราคม 2564) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่ช่วยพัฒนาความพร้อมให้ภาคเอกชนไทย และส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันของทั้งสองประเทศ พร้อมขอให้สหรัฐฯ มั่นใจในเสถียรภาพ และขอให้เชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ภายในประเทศอย่างดีที่สุดภายใต้หลักสากล
 
ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ประเทศไทยนับเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค และตลอดการดำรงตำแหน่งทำให้ได้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความร่วมมือทางทหาร พร้อมยืนยันว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ จะยังคงพร้อมสานต่อความร่วมมืออันดีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป และแม้จะพ้นจากหน้าที่ไปแล้ว แต่จะยังคงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน และพร้อมสนับสนุนภาคเอกชนไทยที่ต้องการขยายการลงทุนไปยังสหรัฐฯ 
 
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และครอบครัวประสบความสุขและความสำเร็จ พร้อมฝากความปรารถนาดี ไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ภริยา และครอบครัวด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เมื่อพ้นจากหน้าที่ จะสานต่อผลประโยชน์ และเกื้อกูลให้ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ดำเนินไปอย่างราบรื่น
 
 
 
 
 

ที่มา:รัฐบาลไทย