ไทยเข้าร่วมการประชมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 ที่อินโดนีเซีย


เมื่อวันที่ ๙ - ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๔๒ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองลาบวน บาโจ อินโดนีเซีย ซึ่งจัดขึ้นภายใต้การเป็นประธานของอินโดนีเซีย ภายใต้แนวคิด "อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรค์สร้างความเจริญ” (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth)
 
ที่ประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางเสริมสร้างศักยภาพของอาเซียนในการตอบสนองต่อปัญหาและความท้าทายต่างๆ ภายใต้บริบทที่มีความผันผวนจากการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจและการคงความสำคัญของอาเซียนในการเป็นศูนย์กลางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ เช่น สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาและผลกระทบต่อการขยายตัวของอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ โดยผู้นำได้รับรองเอกสารและถ้อยแถลงเรื่องการต่อต้านการการค้ามนุษย์ที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการโจมตีขบวนรถของศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ (AHA Centre) ระหว่างเดินทางไปยังรัฐฉาน นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้รับรองเอกสารสำคัญหลายเรื่อง รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลและด้านพลังงาน การชำระเงินด้วยระบบดิจิทัล และระบบนิเวศสำหรับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
 
ในโอกาสนี้ รนรม./รมว.กต. ได้นำเสนอประเด็นที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาค ได้แก่ (๑) การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนด้วยยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ร่วมกับ สปป.ลาว และเมียนมา รวมถึงร่วมกับเมียนมาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ Waste-to-Energy ซึ่งจะนำขยะมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน โดยเฉพาะขยะจากการเพาะปลูก (๒) การผลักดันความตกลงด้านการให้ความช่วยเหลือคนชาติอาเซียนในต่างแดน ระหว่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่มีศักยภาพด้วย และ (๓) การรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียนท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และมีปฏิสัมพันธ์กับมหาอำนาจทุกฝ่ายอย่างสร้างสรรค์ ภายใต้มุมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific: AOIP)
 
นอกจากนี้ รนรม./รมว.กต. ยังได้เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ สมัชชารัฐสภาอาเซียน เยาวชนอาเซียน สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน และคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๒๕ อีกด้วย
 
 
 
 
 

ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์