ไทย - เมียนมา ประชุมคณะกรรมการส่วนท้องถิ่น (TBC) ครั้งที่ 36


 
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2561 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่แจ๊ะ จังหวัดบอละแคะ รัฐคะยา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา พันเอก วรเทพ บุญญะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 ประธาน TBC ฝ่ายไทย พร้อมส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมประชุมกับ พันตรี ซันไป่อู รักษาการผู้บังคับกองพันเคลื่อนที่เร็ว 530/ประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา พร้อมส่วนราชการในพื้นที่อำเภอแม่แจ๊ะจังหวัดบอละแคะ ครั้งที่ 36
 
ในการประชุมครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้มีประเด็นข้อหารือร่วมกันทั้งหมด 10 ข้อ ห้ามไม่ให้มีการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้าออกตามช่องทางจุดผ่อนปรนและพื้นที่ตะเข็บแนวชายแดน รวมทั้งให้เข้มงวดไม่ให้มีสินค้าหนีภาษีเข้ามาในพื้นที่ และทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
 
ในส่วนของปัญหาที่สำคัญเร่งด่วนในขณะนี้คือปัญหาไฟป่าที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและด้านสาธารณสุขของประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายไทยได้ประสานขอความร่วมให้ทางฝ่ายเมียนมาช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ชายแดนไม่ให้มีการจุดไฟเผาป่าเพื่อป้องกันหมอกควันไฟเข้ามาในฝั่งไทย เนื่องจากตามแนวชายแดนไทยได้สั่งห้ามประชาชนเด็ดขาดแล้วไม่ให้เผาป่าเผาไร่ในช่วงนี้
 
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้เสนอให้มีการจัดตลาดนัดสองแผ่นดิน โดยผู้ประกอบการค้าของจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะนำสินค้าโอทอปไปจัดจำหน่ายในพื้นที่อำเภอแม่แจ๊ะ จังหวัดบอละแคะ สหภาพเมียนมา ซึ่งทางฝ่ายเมียนมาไม่ขัดข้องเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชนทั้งสองประเทศ
 
สำหรับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและด้านเศรษฐกิจรองรับการเปิดช่องทางด่านถาวรบ้านห้วยต้นนุ่น หรือช่องทาง BP 13 อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน กับ อ.แม่แจ๊ะ จ.บอละแคะ เพื่อให้การส่งสินค้าเข้าออกของทั้งสองประเทศสะดวกยิ่งขึ้นนั้น ในส่วนของเมียนมาขณะนี้รัฐบาลเมียนมาได้ทุ่มงบประมาณทำการปรับปรุงขยายเส้นทางกว้างประมาณ 15 - 20 เมตร ตั้งแต่สันเขตชายแดนไทยเมียนมาช่องทางห้วยต้นนุ่นเข้าไปยังอำเภอแม่แจ๊ะ รัฐคะยา ระยะทาง 25 กิโลเมตร และจะมีการขยายแนวเขตทางไปจนถึง จ.ลอยก่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ในส่วนของไทยการปรับปรุงถนนจากบ้านห้วยต้นนุ่นไปยังช่องทางห้วยต้นนุ่น หรือ BP 13 ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชให้มีการปรับปรุงเส้นทางที่เหลืออีก 9.7 กิโลเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการเช่นกัน
 
 
 
 

ที่มา:ศูนย์ข้อมูลข่าวสารอาเซียน