อาเซียน-แคนาดา เจรจา FTA รอบ 8 คืบหน้าต่อเนื่อง ตั้งเป้าปิดดีลปี 68
04 กันยายน 2567
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นหัวหน้าผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา (ACAFTA TNC) รอบที่ 8 ระหว่างวันที่ 23-24 พ.ค. 2567 ณ กรุงเทพฯ โดยไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาของคณะทำงานเจรจากลุ่มต่างๆ เพื่อเร่งสรุปผลภายในปี 2568 ตามที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและแคนาดาตั้งเป้าไว้
การเจรจารอบนี้ มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยได้เร่งรัดการเจรจาของคณะทำงานและผลักดันประเด็นคงค้างสำคัญ อาทิ การเปิดตลาดสินค้า การรับรองเอกสารเกี่ยวกับกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า และโครงสร้างและขอบเขตการบังคับใช้บทการค้าบริการและการลงทุน รวมทั้งให้เร่งการเจรจาประเด็นการค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่รวมเรื่องแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการค้าที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน ซึ่งจะเชื่อมโยงกับบทอื่นๆ ใน FTA ฉบับนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันกิจกรรมช่วยเหลือทางเทคนิคให้แก่อาเซียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเจรจา ซึ่งล่าสุด ได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดทำข้อมูลการค้าและการปรับโอนพิกัดภาษีศุลกากรเป็น HS2022 ทำให้ประเทศ CLMV สามารถส่งข้อมูลได้ตามกำหนดเวลา
นางสาวโชติมา กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนเจรจาที่เหลืออีก 8 รอบ และเร่งผลักดันแผนงานเจรจาของทั้ง 19 คณะทำงาน เพื่อให้สามารถสรุปผลภายในปี 2568 โดย FTA ฉบับนี้ ถือเป็นฉบับแรกที่ไทยทำกับประเทศในภูมิภาคอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะแคนาดาที่เป็นตลาดศักยภาพ กำลังซื้อสูง มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัย แรงงานมีทักษะ และมีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยต่อยอดขยายโอกาสด้านการค้าการลงทุน และพัฒนาศักยภาพของไทย
สำหรับในช่วง 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 2567) การค้าระหว่างอาเซียนกับแคนาดา มีมูลค่า 6,930.76 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น0.14 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแคนาดาส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 1,450.29 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น15.33% และแคนาดานำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 5,480.46 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26.48 % สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และเครื่องแต่งกายและของที่ใช้ประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ธัญพืช เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และปุ๋ย
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1129206
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ