อนุทิน ชงอาเซียนจับมือ เกาหลีฯ ปราบสแกมเมอร์จริงจัง
04 พฤศจิกายน 2568
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 (26th ASEAN - Republic of Korea Summit) โดย นายอี แช มย็อง (H.E. Mr. Lee Jae Myung) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลีคนใหม่ได้จะได้พบกับผู้นำอาเซียน เป็นครั้งแรก ขณะที่ไทยทำหน้าที่เป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี เน้นถึงการประชุมครั้งนี้ว่า เป็นการทบทวนและกำหนดทิศทางความร่วมมือในอนาคตระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี รวมถึงส่งเสริมการดำเนินการการสถาปนาการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership: CSP) เมื่อปี 2567 ซึ่งโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงทั้งในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนในคราวเดียวกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าว ต้อนรับประธานาธิบดีอี แช มย็อง พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในนามอาเซียน เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของอาเซียนในการขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านอาเซียน–สาธารณรัฐเกาหลี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมชื่นชมบทบาทของเกาหลีใต้ในกลไกความร่วมมือของอาเซียน และจะดำเนินการตามแผนการดำเนินงานอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลีฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569-2573)
ด้านความมั่นคง – นายกรัฐมนตรีแสดงความมุ่งมั่นต่อความร่วมมือทางการเมือง เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรมทางไซเบอร์ ตลอดจนสนับสนุนการเสริมสร้างความตระหนักรู้ด้านกิจการทางทะเลผ่านความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียังได้เสนอความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับเกาหลีในการปราบปราม Scammer อย่างจริงจัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้นำสมาชิกอาเซียนหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และลาว
ด้านเศรษฐกิจ – นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ผ่านการยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–เกาหลี (ASEAN-Korea Trade Agreement - AKFTA) ในปี 2026 และการใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน
ด้านสังคมและวัฒนธรรม – นายกรัฐมนตรีได้ผลักดันการส่งเสริมการศึกษา การท่องเที่ยว กีฬา การพัฒนาแรงงาน และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ระหว่างอาเซียนและเกาหลีใต้เพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคต
ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม – เน้นการส่งเสริมการทำงานร่วมกับศูนย์อาเซียนในสาขาอนามัย สิ่งแวดล้อม และพลังงานหมุนเวียน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย โดยเสนอ 3 แนวทางความร่วมมือหลัก เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทย–อาเซียน–สาธารณรัฐเกาหลี ได้แก่
1) การพัฒนาเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล สนับสนุนข้อริเริ่ม “AI Initiative” ของเกาหลีใต้ เพื่อการเติบโตอย่างครอบคลุม
2) การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ผ่านการเร่งรัดเจรจา “Thailand–ROK Economic Partnership Agreement (EPA)” และการปรับปรุงข้อตกลง AKFTA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาค
3) การสร้างอนาคตสีเขียวและยั่งยืน โดยไทยพร้อมร่วมมือกับเกาหลีในการดำเนินโครงการ “Clean Air for Sustainable ASEAN” และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำจุดยืนของไทยในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค โดยสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยการเจรจาและความร่วมมือ ไม่ใช่การเผชิญหน้า และแสดงความพร้อมของไทยและอาเซียนที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของสาธารณรัฐเกาหลีในการดำเนินการตามแผนการดำเนินงานอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2569-2573) เพื่อขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ