กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กับอาเซียน

      เมื่อวันที่ 6 – 8 สิงหาคม 2568 นางมนัสวี มนตริวัต ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางสาวสุดินา แก้วดี ท้องถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี Mr. HIRABAYASHI Atsutoshi ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น และคณะผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพเพื่อการฟื้นฟูท้องถิ่นอย่างยั่งยืนร่วมกับนายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี โดยเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่นำร่องของภาคกลางและได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุในระดับท้องถิ่นควบคู่กับการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนกลับมาทำงานที่บ้านเกิดของตนเอง 

      เทศบาลเมืองสุพรรณบุรีได้วิเคราะห์บริบทพื้นที่และสถานการณ์ของเมือง พบว่า ประเด็นที่เทศบาลเมืองสุพรรณบุรีควรส่งเสริม คือ การเพิ่มโอกาสในการจ้างงานในพื้นที่เนื่องจากภูมิศาสตร์ใกล้กับกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่งผลให้เยาวชนจำนวนมากเลือกไปศึกษาและทำงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงทำให้พื้นที่มีเยาวชนรุ่นใหญ่เข้ามาพัฒนาได้ไม่เต็มศักยภาพที่ควรจะเป็น ดังนั้น จึงได้กำหนดประเด็นที่คาดว่าจะพัฒนาร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จำนวน 3 ประเด็น ได้แก่ การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี การส่งเสริมการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพสำหรับคนทุกช่วงวัย และการส่งเสริมให้เยาวชนกลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง จากบริบทพื้นที่และประเด็นที่สนใจพัฒนาจึงได้กำหนดกิจกรรมภายใต้โครงการภายใต้หลักการ “LOREP Suphanburi” ซึ่งดำเนินกิจกรรม 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. สองวัยร่วมใจฟื้นฟูท้องถิ่น 2. เครือข่ายสร้างอาชีพ และ 3. ชีวิตดี๊ดีที่เมืองสุพรรณ ทั้งนี้ เทศบาลเมืองสุพรรณบุรีอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดของโครงการฯ และเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีได้เชิญสมาคมและกลุ่มอาชีพในพื้นที่ เทศบาลเมืองสุพรรณบุรีและผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่ สมาคมช่างตัดผม สมาคมร้านอาหาร สมาคมแผงลอย และสมาคมผู้สูงอายุ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แนวทางการพัฒนาทักษะอาชีพและการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value added) ให้กับอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ในโอกาสนี้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากภาคีต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่และเศรษฐกิจท้องถิ่นร่วมกัน พร้อมทั้ง รับฟังแนวทางการฟื้นฟูท้องถิ่นที่ดีของประเทศญี่ปุ่น (Good Practice) และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น 

     

      นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และการสร้างการมีส่วนร่วมของตนในชุมชน ดังนี้ 

 

1. แปลงนาสาธิตนาเฮียใช้ เพื่อศึกษาการดำเนินการคัดแยกพันธุ์ข้าว รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการผลิตข้าว เพื่อหาแนวทางการพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างอาชีพให้แก่คนในท้องถิ่น 

 

2. สวนเฉลิมภัทรราชินี เพื่อติดตามการดำเนินกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ 

 

3. ตลาดขุนไกรไนท์มาร์เก็ต เพื่อติดตามกิจกรรมการพัฒนาอาชีพเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ผ่านกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่สตรีทฟู้ด ให้เป็นระเบียบ ถูกสุขลักษณะ